Cart

โปรแกรมปลูกผมด้วยเทคนิค FUE

การปลูกผมด้วยเทคนิค FUE คือ 

การปลูกผมถาวร แบบย้ายรากผม เทคนิค FUE หรือ Follicular Unit Excision เป็นเทคนิคนี้จะใช้การเจาะเอารากผมที่แข็งแรงที่สุด จากบริเวณท้ายทอยที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT มาทำการปลูกผม ดังนั้นเทคนิคนี้จึงไม่จำเป็นต้องตัดหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นยาว เหมือนวิธีการปลูกผมแบบ FUT แบบดั้งเดิม ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการปลูกผมเทคนิค FUE คือความสวยงามและดูเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญไม่ทำให้ผมกลับมาถอยร่นเป็นปัญหาซ้ำเดิม อีกทั้งเทคนิคนี้ไม่มีการผ่าตัด ปลูกผมเสร็จก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในส่วนของขั้นตอนการรักษา แพทย์จะเริ่มฉีดยาชาและเริ่มทำการรักษาด้วยเทคนิค FUE โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือหัวเจาะขนาด 1 mm. ขึ้นไป เจาะบริเวณรอบกอผมลึกลงไปยังรากผม โดยเลือกเซลล์ผมจากบริเวณด้านหลัง ต้องเป็นเซลล์ผมที่มีความแข็งแรง โดยดึงกอผมเหล่านั้นออกมาพร้อมกันนั้น ต่อมาแพทย์จะเปิดช่องบริเวณศีรษะที่ไม่มีผมให้อ้าออก แล้วใส่กราฟต์ลงไป เปรียบเสมือนการย้ายเซลล์ผมออกมานั่นเอง ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความละเอียดประณีตและความชำนาญของแพทย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากการใช้เครื่องมือที่มีหัวอุปกรณ์ขนาดใหญ่ในการปลูกผม อาจทำให้รากผมขาดได้  ส่งผลต่อความเป็นธรรมชาติ และระยะเวลาในการรักษาด้วย

ข้อดีของการปลูกผม แบบย้ายรากผมเทคนิค FUE

ไม่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่

การปลูกผมถาวร แบบย้ายรากผมเทคนิค FUE จะใช้เครื่องเจาะนำกราฟต์ผมออกมา ซึ่งไม่ก่อให้เกิดรอยแผลที่มีขนาดใหญ่ โดยจะมีรอยแผลขนาดรูเล็กที่มองไม่ค่อยเห็นกระจายอยู่บริเวณหลังศีรษะ แผลเหล่านั้นจะหายเองตามธรรมชาติ แต่อาจจะใช้เวลาในการพักฟื้นมากกว่าหนึ่งสัปดาห์

ไม่ต้องผ่าตัด

การปลูกผมถาวร แบบย้ายรากผมเทคนิค FUE ไม่มีการผ่าตัดบริเวณหลังศีรษะ ซึ่งจะทำให้คนไข้จะรู้สึกเจ็บแผลด้านหลังน้อยกว่าและไม่รู้สึกตึงหนังศีรษะ ส่งผลทำให้แผลบริเวณดังกล่าวหายเร็วกว่า การปลูกผมถาวรเทคนิค FUT แบบดั้งเดิม

นำผมไปปลูกบริเวณอื่นได้

การปลูกผมถาวร แบบย้ายรากผมเทคนิค FUE สามารถย้ายเส้นผมที่มีขนาดเส้นเล็กตรงบริเวณท้ายทอย มาปลูกบริเวณอื่น ๆ ได้เช่น มาปลูกคิ้ว ปลูกหนวด ปลูกจอน ปลูกเครา อีกทั้งสามารถนำขนจากบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก ขนแขน ขนหน้าแข้ง มาปลูกที่ศีรษะได้เช่นกัน (ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ แล้วแต่กรณี)

ขั้นตอนการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE 

  • ขั้นตอนที่ 1 : การเตรียมความพร้อมสำหรับการปลูกผม

    แพทย์ทำการออกแบบแนวผมที่จะทำการปลูกใหม่และมีการกำหนดพื้นที่บริเวณที่จะปลูกผมและทำการคำนวณกราฟต์ ให้เหมาะสมกับลักษณะโครงหน้าของคนไข้ ต่อมาผมบริเวณหนังศรีษะบริเวณด้านหลังจะถูกโกนให้สั้น เพื่อให้ง่ายต่อการย้ายเซลล์รากผมที่แข็งแรงจากทางด้านหลังมาปลูกบริเวณที่ต้องการ

    ขั้นตอนที่ 2 : การเจาะเพื่อดึงเซลล์รากผม

    แพทย์จะทำการฉีดยาชาบริเวณที่จะทำการผ่าตัด เมื่อยาชาออกฤทธิ์ คนไข้จะไม่มีความรู้สึกบริเวณนั้น ผมบริเวณที่ถูกคัดเลือกจะถูกฆ่าเชื้อ ทำความสะอาด แพทย์จะใช้เครื่องมือหัวเจาะขนาด 1 mm. ขึ้นไป เพื่อเจาะดึงกราฟต์ผมออกลึกถึงเซลล์รากผมด้านหลังบริเวณท้ายทอย

    ขั้นตอนที่ 3 : การเจาะรูเพื่อปลูกผมใหม่

    ในขั้นตอนการฝังกราฟต์  ในบริเวณที่ต้องการทำการปลูกผมนั้น แพทย์จะใช้ Forceps ปลายแหลม 2 ตัว โดยมือหนึ่งเปิดรู แล้วใช้อีกมือใส่กราฟต์เข้าไป ทำแบบนี้พร้อมกันเพื่อลดการบอบช้ำของเซลล์รากผม แพทย์ใช้เข็มเจาะแล้วปลูกผมใหม่ลงไป เพื่อเพิ่มความหนาแน่นแต่ละบริเวณที่ต้องการ

    ขั้นตอนที่ 4 : การฝังกอผม (กราฟต์)

    การดำเนินการขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนปริมาณเซลล์รากผมที่ต้องการ หลังจากการปลูกผมเสร็จสิ้น จะทำการพันศรีษะผู้ป่วย ผู้ป่วยอาจเกิดการบวมบริเวณหน้าผากหลังการ ปลูกผม หรืออาจเกิดตุ่มหนองเล็กๆ คล้ายหัวสิวได้บ้างบริเวณรูขุมขนที่ปลูก ซึ่งอาจให้ยาปฎิชีวนะเพื่อการรักษา หรืออาจมีอาการชาบริเวณหนังศีรษะหลังการปลูก ซึ่งอาการดังกล่าวก็มักจะหายไปได้เอง

    ขั้นตอนที่ 5 : กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

    หลังการปลูกให้ปฏิบัติตัวตาม คำแนะนำ สามารถนอนหงายได้ปกติ แต่ควรจะคาดผ้า เพื่อป้องกันอาการหน้าบวม ระยะแรกหลังการผ่าตัด เส้นผมจะร่วงไปก่อนโดยรากผมจะเข้าสู่ระยะพักประมาณ 3-4 เดือน จึงเริ่มงอกขึ้นมาใหม่ อัตราการยาวของเส้นผมจะเท่ากับเส้นผมปกติตามธรรมชาติ

    ดังนั้นการปลูกผมถือเป็นการรักษาที่นำหลักการทั้งศาสตร์ และศิลป์มาใช้ ไม่ใช่แค่ปลูกให้ผมขึ้นมามาก ๆ โดยต้องคำนึงถึงหลักโหงวเฮ้ง และความเป็นธรรมชาติ การออกแบบให้เหมาะสมกับอายุ เพศ ระยะผมร่วง เชื้อชาติ ลักษณะใบหน้า รูปทรงของศีรษะ ซึ่งข้อจำกัดของการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE นี้ อาจต้องใช้เวลานาน 6-8 เดือน เพื่อให้เซลล์รากผมที่ได้รับการปลูกเติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์

  • นอกจากนี้ยังมีวิตามินบรรจุขวดชนิดรวม ทั้งวิตามิน บี ไบโอติน เหล็ก สังกะสี วิธีการใช้ผู้ผลิตจะแนะนำไว้ที่ฉลากยา ควรตรวจสอบ ซื้อจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ และมีเครื่องหมายขององค์การอาหารและยาหรืออย.รับรอง หากหลังรับประทานมีอาการคลื่นไส้ ให้หยุดรับประทานและปรึกษาแพทย์