Cart

โปรแกรมรักษาผมร่วงผมบางด้วย MESO THERAPY

Meso Hair

คือการฉีดยาเข้าสู้ชั้นใต้ผิวหนังบริเวณรากผมเพื่อกระตุ้นให้รากผมแข็งแรง เร่งการขึ้นใหม่ของเส้นผมที่หลุดร่วงไป จึงควรทำเป็นประจำต่อเนื่องทุก1-2 สัปดาห์ต่อครั้งในช่วงแรกของการรักษา ขั้นตอนในการทำแพทย์จะทำความสะอาดหนังศรีษะด้วยแอลกอฮอร์จากนั้นใช้เครื่องมือที่เรียกว่า mesogun

ฉีดน้ำยาที่มีส่วนผสมของยากระตุ้นเส้นผมให้ขึ้นลงไปที่รากผมแบบตื้นๆไม่เจ็บใช้เวลา 10-15 นาทีแล้วเป่าผมให้แห้ง หลังทำmesohair ไม่ควรสระผมทันทีควรรออย่างน้อย 4-6 ชม.ควรทำร่วมกับการทานยาและใช้ยาทายาสระ จะเริ่มเห็นผลในเดือนที่ 2 ของการรักษา

หนุ่ม ๆ หลายคนวิตกกังวลกับ เส้นผมที่น้อยและ บางก่อนวัยอันควร ซึ่งทำให้เกิดความไม่มั่นใจ เกี่ยวกับบุคคลิกภาพ ส่วนใหญ่จะเกิดกับคนสูงวัย เนื่องจาก กรรมพันธุ์ (Androgentic alopecia) ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด แต่นอกจากกรรมพันธุ์แล้วยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีก เช่น

การป้องกัน ผมร่วง

  • การดูแลรักษาเบื้องต้น ต้องรักษาความสะอาดของเส้นผมแต่ต้องใช้ผลิยภัณพ์ ที่ไม่ทำร้ายเส้นผมและหนังศีรษะมากเกินไป ควรใช้แชมพูอ่อน ๆ ที่ใช้สำหรับเด็ก หรือแชมพูสระผมสมุนไพรจากธรรมชาติที่มีมาตราฐานรับรอง
  • หลังจากสระผมไม่ควรนอน หรือ ทำกิจกรรมอื่น ๆ ทันทีเพราะการนอนอาจจะทำให้หนังศรีษะเกิดความชื้นเป็นบ่อเกิดแก่โรคเกี่ยวกับหนังศรีษะ เช่นเชื้อ ราเป็นต้น ควรจะทำผมให้แห้ง โดยการใช้ไดร์เป่าผมที่มีความร้อนมากเกินไป เพราะจะทำให้เส้นผมแห้ง และไม่ควรผูกหรือมัดผมแน่นเกินไป เพราะจะทำให้รากผมอ่อนแอ และหลุดร่วงง่าย
  • ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ ทั้ง 5 หมู่ และควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ เพราะจะทำให้เส้นเลือด หดตัว ทำให้การไหลเวียนโลหิตไม่สะดวกทให้การส่งผ่านออกซิเจนและสารอาหารได้ไม่เต็มที่ อาหารที่เค็มจัด หรืออาหารที่มีผงชูรส มาก ควรงดอย่างยิ่ง

การรักษาผมร่วง มีวิธีการดังต่อไปนี้

  • การรักษาด้วยวิธี การใช้ยาสระผมแก้ผมร่วง โดยเลือกแชมพูที่มีฤทธิ์ต้าน แอนโดรเจน)ลดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เทสโตสเตอโน(Testosterone) เป็น DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่ง ฮอร์โมนนี้ทำให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะเล็กลง และผมที่งอกออกมาจะมีลักษณะบางและสั้นจะเป็นสาเหตุของผมร่วงขาดและบาง ตามมา
  • การใช้สมุนไพรธรรมชาติเช่น มะกรูด ว่านหางจระเข้ ชาเขียว ขิง พริก เป็นต้น
  • การใช้เซรั่ม ปลูกผม โดยทั่วไปมีลักษณะใส ใช้นวดให้ทั่ว ทั้งศีรษะซึ่งมีทั้งเซรั่มที่ทำจากสารเคมีที่ใช้ป้องกันผมร่วง และ เซรั่มจากธรรมชาติ เช่น เซรั่มจากมะหาด ขิง เช่นนี้เป็นต้น
  • การใช้อาหารเสริม บำรุงราก และ เส้นผม ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวิตามินบี อาหารเสริมส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวิตามินบี โดยเฉพาะวิตามินบี 6 ที่ส่งเสริมการงอกของเส้นผมและช่วยให้เส้นผมแข็งแรง ในผู้ที่มีผมร่วงอาจใช้วิตามินบีเสริมในปริมาณที่สูงกว่าปกติ 5-6 เท่า โดยในแต่ละวันร่างกายต้องการวิตามิน บี 6 1.8-2.2 มิลลิกรัม อาการเป็นพิษจากการรับประทานวิตามินบีมีน้อยแต่ควรสังเกตตัวเองว่ามีอาการท้องอืด คลื่นไส้ ให้ลดขนาดลงและหยุดรับประทานหากลดขนาดแล้วอาการยังไม่ทุเลา
  • อาหารเสริมในกลุ่มไบโอติน (Biotin) ปัจจุบันถูกเรียกว่าวิตามินบี 7 (Vitamin H) ละลายในน้ำ พบในถั่ว ไข่แดง กะหล่ำ ขนมปังธัญพืช ปกติคนเราจะไม่ขาดวิตามินชนิดนี้ เพราะร่างกายต้องการปริมาณน้อยและสามารถสร้างเองได้ที่ลำไส้ใหญ่ แต่จะพบว่าร่างกายไม่สามารถดูดซึมไบโอตินในคนที่กำลังเจ็บป่วย หรือผู้ที่ได้รับยาปฏิชีวนะกลุ่มซันฟา (Sulfonamides) ซึ่งส่งผลให้เส้นผมหลุดร่วง จึงมีไบโอตินชนิดเม็ดบรรจุ มีคำแนะนำว่าควรรับประทานวันละ 100-300 ไมโครกรัมต่อวัน การเกิดพิษจากไบโอตินยังไม่มีรายงาน แต่ควรสังเกตอาการรวมกับผู้ที่ได้รับวิตามินบี คืออาการอืดท้อง คลื่นไส้ให้หยุดรับประทาน
  • นอกจากนี้ยังมีวิตามินบรรจุขวดชนิดรวม ทั้งวิตามิน บี ไบโอติน เหล็ก สังกะสี วิธีการใช้ผู้ผลิตจะแนะนำไว้ที่ฉลากยา ควรตรวจสอบ ซื้อจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ และมีเครื่องหมายขององค์การอาหารและยาหรืออย.รับรอง หากหลังรับประทานมีอาการคลื่นไส้ ให้หยุดรับประทานและปรึกษาแพทย์