Cart

เสริมจมูก

เสริมจมูกอย่างไรให้เข้ากับใบหน้า

มีน้อง ๆ หลายคน ถามว่า เสริมจมูกจะเริ่มได้ที่อายุเท่าไร และ ต้องเสริมทรงจมูก อย่างไรให้สวยเหมาะกับใบหน้า เพื่อให้ชีวิตดีขึ้น อายุของผู้ชายเริ่มทำได้ที่อายุ 15 ส่วนผู้หญิงเริ่มทำได้ที่อายุ 18 การเสริมจมูกจะต้องมีการวัดความกว้างยาวสูงของใบหน้า หรือที่เรียกกันว่า golden ratio face หรือสัดส่วนทองของความสวย

Golden Ratio สัดส่วนทองคำ เป็นสัดส่วนที่ทางนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อว่าลีโอนาโด ฟีโบนัชชี เป็นคนออกแบบ โดยเชื่อว่า Golden Ratio เป็นสิ่งที่ช่วยให้สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปวาด ภาพถ่าย โลโก้ หรือแม้กระทั่งใบหน้านั้น ดูสมส่วนสวยงามที่สุด ซึ่ง Golden Ratio นั้น ก็ได้รับการยอมรับจากผู้คนมากมายว่าสามารถใช้วัดสัดส่วนความสวยได้จริง ไม่ใช่แค่ศัลยแพทย์ที่ใช้ Golden Ratio วัดสัดส่วนใบหน้าเท่านั้น ช่างภาพ และ นักออกแบบต่างก็ใช้ Golden Ratio ในการวัดสัดส่วนความสวยสมบูรณ์เช่นกัน

จมูก ทรงหยดน้ำ

การทำจมูกหยดน้ำคือการทำให้ปลายจมูก ยาวขึ้น คล้ายๆ หยดน้ำ ทรงจมูกนี้มองตรงๆ จะไม่เห็นรูปจมูก ซึ่งตามลักษณะ โหงวเฮ้ง แล้วเป็นจมูกที่เก็บเงินเก่ง แต่การทำทรงจมูกนี้ เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกยาวพอสมควร และ ตรงปลายต้องมีเนื้ออยู่พอประมาณ หากใครที่คิดจะทำทรงนี้ต้องดูตัวเองด้วยว่าเนื้อจมูกพอไหม เพราะถ้าปริมาณเนื้อทั้งบริเวณดั้งและ ปลายน้อยจะทำทรงนี้ไม่ได้ อาจจะทำให้ปลายทะลุได้ง่าย ๆ ในระยะยาว

จมูกทรงบาบี้

เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ชอบสวยเฉี่ยว ทรงนี้ดูจะเหมาะที่สุด แต่คนที่จะทำจมูกทรงนี้ต้อง เป็นคนที่มีจมูกงุ้ม หรือจมูกบาน หากทำทรงบาบี้นี้จะเหมาะและ สวยมาก แต่ทั้งนี้ขึ้นอยุ่พื้นฐานของจมูกเรา โหงวเฮ้ง จมูกทรงนี้ถ้าเชิดมาเกินไปมองเห็นรูจมูก ชัดเจนเมื่อมองตรง ๆ จะเก็บเงินไม่อยู่ เรามีทางแก้

จมูกทรงปลายพุ่ง

เป็นทรงที่สาว ๆ นิยมกันมากรองจากทรงหยดน้ำ ทรงนี้จะเป็นต้นแบบมาจากชาวยุโรป ที่โด่ง ๆ และ แหลมเป็นสัน เพื่อทำให้ใบหน้ามีสัดส่วนที่สวยงาม และ เด่น การทำจมูกทรงนี้ปลายโคนของจมูกจะอยูขนตาด้านบน หรือในภาษาจีนเรียกจมูกถึงฟ้า ส่วนใหญ่คนที่เป็นนักธุรกิจใหญ่ๆ จะมีรูปทรงจมูกแบบนี้

ซิลิโคนสำเร็จรูป

จากโรงงานผู้ผลิต ที่มีขนาดมาตราฐาน ที่พร้อมจะใส่ได้ทันที แต่คุณหมอจะมีการตัดแต่งบ้างเพื่อให้เหมาะกับขนาดของใบหน้าและจมูกของเรา ซึ่งทำให้สะดวกรวดเร็ว และ มีปัญหาการเอียงน้อย ตัวเนื้อซิลิโคนมีทั้งแบบ แข็ง และ นิ่ม ตามที่ลูกค้าต้องการซึ่งมีทั้งจากประเทศเกาหลี หรือ อเมริกา และ ของที่ทำในประเทศไทย

ซิลิโคนแบบแท่ง

ซึ่งคุณหมอต้องมาเหลาเอง โดยใช้ความชำนาญของแพทย์ แต่ละ คน ข้อดี คือ สามารถทำรูปแบบได้ตามต้องการ และ เหมาะกับรูปทรงของหน้าลูกค้า ซึ่งแบ่ง เป็น 4 ชนิดย่อย ตามลักษณะอ่อนแข็ง
2.1 แบบแข็ง (hard)
2.2 แบบ แข็งปานกลาง (Medium)
2.3 แบบนุ่ม (Soft)
2.4 แบบนุ่ม มาก (Utra Soft)

คนไข้ที่มีเนื้อสันจมูกมาก และ มีปลายจมูกเนื้อหนา

สามารถที่จะดึงเนื้อส่วนสันให้สูงมากขึ้นได้ สามารถใช้ซิลิโคนที่มีความแข็งในระดับกลาง(medium ได้ เพื่อที่จะไม่ยุบตัวเมื่อเสริมไปนาน ๆ)

คนไข้ที่มีเนื้อจมูกปานกลาง และ มีเนื้อจมูกที่ปลายพอสมควร

คุณหมอจะใช้ซิลิโคนที่มีความนิ่ม เพราะเมื่อเสริมไปแล้วจะทำให้ดูเนียน และ เวลาผ่านไปจะดูเนียนยิ่งขึ้น เพราะใช้ซิลิโคนแข็งจะทำให้ดูเป็นสันอย่างชัดทำให้ทราบว่ามีการเสริมจมูกมาซึ่งจะทำให้ไม่ดูเป็นธรรมชาติ

คนไข้มีเนื้อจมูกน้อย และ ปลายจมูกเนื้อน้อย

ไม่สามารถดึงเนื้อส่วนสันจมูกและ ปลายจมูก หมอขอแนะนำ ว่า ให้ใช้ซิลิโคนแบบแข็งปานกลาง หรือนิ่ม เพื่อให้เนียนไปกับผิวหน้า อันนั้หมอจะพิจารณาตามความเหมาะสม<br /> จมูกที่เสริมแล้วจะสวยไม่สวย อยู่ที่ดุลพินิจของแพทย์ผู้ทำ ไม่จำเป็นว่าซิลิโคนที่แพงจะทำออกมาสวย

เมื่อเรารู้แล้วว่า ตัวเราเหมาะกับซิลิโคนแบบไหน ทีนี้เรามาดูว่าการเตรียมตัวก่อนการเสริมจมูกควรทำอย่างไร

  • ต้องแจ้งคุณหมอทุกครั้งว่าเรามีโรคประจำตัวอะไร และ กินยาอะไรอยู่เป็นประจำบ้าง หรืออาหารเสริมบางอย่างที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัว และทำให้เกิดอาการบวมหรือช้ำมากกว่าปกติ
  • ต้องงดเหล้า หรือเครื่องดืมแอลกอฮอร์ที่มีผลต่อความดันโลหิต พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอภายหลังการผ่าตัดเสริมจมูก
  • Cool gel ให้สำหรับประคบภายหลังการผ่าตัดจมูก เพื่อป้องกันเลือดมาเลี้ยงบริเวณดั้งจมูก และ ด้านข้าง หน้าผาก ตาเป็นต้น เพื่อลดอาการบวม ช้ำ สลับกันใช้
  • สำลีแบบก้าน เพื่อใช้การทำความสะอาดแผลด้านในจมูก ควรใช้แบบฆ่าเชื้อ

การปฏิบัติ ตัวภายหลังจากการผ่าตัดเสริมจมูก

  • ในวันแรกภายหลังจากผ่าตัดเสร็จ ต้องใช้ cool gel หรือผ้าแช่เย็นประคบบริเวณด้านข้าง ๆ จมูก หน้าผาก หรือ ด้านข้างๆ สันจมูก โดยให้ประคบทั้งคืนถ้าเป็นไปได้
    ไม่ควรนอนราบกับที่นอน เพราะจะทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณแผลผ่าตัดเป็นจำนวนมาก ตามธรรมชาติเพื่อซ่อมแซมร่างกาย แต่ให้นอนหัวสูงและพยายามประคบ พร้อมที้งทานยาแก้บวม แก้อักเสบ และ ยาแก้ปวดที่คุณหมอให้ ทานให้ตรงเวลา
    ใช้เจลฆ่าเชื้อ ทาบาง ๆ โดยใช้สำลีก้านทานะค่ะ
    ใช้สำลีชุบน้ำเกลือทำความสะอาด บริเวณบาดแผล ที่แห้งกรัง ใช้คลีนซิ่งที่ทางคลินิกเช็คหน้างดล้างหน้าสักสองสามวัน
    พยายามอย่าให้จมูกไปกระทบหรือกระแทกอะไรแรง ๆ เพราะอาจจะทำให้แผลที่เย็บแยกได้

Reviews